Customer Relationship Management (CRM)

เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการบริหารจัดการกับลูกค้าโดยตรงให้ได้ผล เหมาะสำหรับธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก (Customer Centric) ต้องการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อใช้สร้างฐานลูกค้าประจำและสามารถที่จะโฟกัสมาที่ลูกค้าชั้นดีให้เกิดผลกำไรในอนาคตกับองค์กรอย่างถาวร องค์กรที่เป็นภาคเอกชน รัฐบาล หรือรัฐวิสาหกิจ ส่วนใหญ่จะต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าทั้งสิ้น ซอฟต์แวร์นี้จะเชื่อมโยงกับระบบ ERP ได้เป็นอย่างดี


โดยมาตรฐานของซอฟต์แวร์จะมีความสามารถและคุณสมบัติดังนี้

1. สามารถกำหนดข้อมูลทางการขายและการตลาดได้ดังนี้ พื้นที่ขายและเส้นทางการขาย พนักงานขาย สื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทำเลที่ตั้งลูกค้า สินค้าที่จำหน่าย แหล่งที่ซื้อ ราคาที่ตั้งไว้ คู่แข่ง

2. การส่งเสริมการขายในขณะนั้น โดยจะกำหนดเป็นรายการสินค้าทั้งในแง่ของราคา ส่วนลด ของแถม และการสะสมยอด ให้กับลูกค้าทุกราย เป็นกลุ่มลูกค้า หรือเฉพาะลูกค้าบางรายได้

3. กำหนดหัวข้อในการสอบถามเมื่อลูกค้าเข้าเยี่ยมชม และกิจกรรมที่จะมีกับผู้ติดต่อจนกระทั่งเป็นลูกค้า รวมถึงแบบสอบถามความพึงพอใจในสินค้าและบริการหรือกิจกรรม

4. สามารถป้อนข้อมูลประวัติของผู้ติดต่อเข้า (Contactor Maintenance) ซึ่งสามารถที่กำหนดว่ามาจากสื่อโฆษณาอะไร สนใจสินค้ากลุ่มไหน อยู่ในทำเลและพื้นที่ขายไหน ผู้ติดต่อมีการกรอกแบบสอบถามอย่างไร หรือเรามีการสัมภาษณ์อะไรบ้าง ข้อมูลนี้สามารถเก็บรวบรวมไว้เพื่อส่งเข้าซอฟต์แวร์วิเคราะห์ทางการตลาดต่อไปได้ ข้อมูลประวัติผู้ติดต่อนี้เราสามารถนำไปพิมพ์จ่าหน้าซองจดหมายเพื่อออกเอกสารต่างๆ ถึงลูกค้าได้ และนำไปใช้ในการเชื่อมโยงกับข้อมูลอื่นๆ ต่อไป

5. สามารถป้อนข้อมูลการนำเสนอสินค้า (Quotation Control) โดยการป้อนข้อมูลเกี่ยวกับผู้ติดต่อ/ลูกค้า ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า ราคาและเงื่อนไขที่จำเป็น

      • ข้อมูลผู้ติดต่อ/ลูกค้า สามารถอ้างอิงรหัสผู้ติดต่อที่เคยบันทึก หรือรหัสลูกค้าที่เคยซื้อสินค้ากับเรา หรือจะป้อนเป็นชื่อบริษัท หรือจะใช้วิธีการค้นหาจากสิ่งที่จำเป็น เช่น เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น และระบบจะมีการตรวจสอบรายชื่อให้ว่าซ้ำกับข้อมูลที่อยู่ในประวัติผู้ติดต่อหรือไม่ หรือมีชื่อใกล้เคียงหรือไม่

      • ข้อมูลสินค้าที่นำเสนอ พร้อม Spec ของสินค้า โดยดึงข้อมูลสินค้าที่จำหน่ายโดยตรง พร้อมราคาสินค้าถ้าเคยเสนอให้กับลูกค้ารายนี้แล้ว

      • จัดพิมพ์ออกมาเป็นใบเสนอราคาซึ่งระบบจะออกหมายเลขให้โดยอัตโนมัติ

      • สามารถอ้างอิงถึงใบเสนอราคาเดิมเพื่อใช้ในสอบทานกลับไปว่าเคยนำเสนอราคาให้กับลูกค้าในเรื่องนี้กี่ครั้งแล้ว

      • สามารถบอกได้ว่าใบเสนอราคานี้ลูกค้าตกลงสั่งซื้อหรือไม่ เมื่อไหร่พร้อมเหตุผล หรือใบเสนอราคาที่ยังไม่มีการตกลง เพื่อการติดตาม รวมถึงการประเมินของพนักงานขายว่าลูกค้าจะซื้อหรือไม่ เพราะเหตุใดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์และเกิดขึ้นเมื่อไหร่

      • สามารถออกรายงานการนำเสนอราคาในแต่ละวันของพนักงานขายแต่ละรายได้ และสามารถเชื่อมโยงกลับไปหาประวัติผู้ติดต่อว่าได้มีการนำเสนอราคาไปจำนวนกี่ฉบับแล้ว

6. สามารถป้อนข้อมูลการติดต่อกับลูกค้าในแต่ละรายได้ (Call Report) โดยกำหนดเป็นกิจกรรม เช่น การนัดหมายเพื่อเข้าพบ การจัดส่งเอกสาร การแจ้งร้องเรียน การยืมสินค้าเพื่อทดสอบ เป็นต้น และสามารถระบุได้ว่ากิจกรรมไหนเป็นกิจกรรมหลักที่ต้องทำ และสามารถบอกได้ว่าทำไปแล้วหรือไม่ ตามระยะเวลามาตรฐานที่กำหนดหรือไม่ ( เช่น หลังจากส่งใบเสนอราคาไปให้ลูกค้าต้องติดตามสอบถามความคืบหน้าภายใน 7 วัน ) และต้องไปดำเนินกิจกรรมไหนต่อไปและเมื่อไหร่ ข้อมูลการติดต่อนี้จะเชื่อมเข้าสู่ประวัติผู้ติดต่อด้วยเพื่อเรียกประวัติย้อนหลังดูได้ในแต่ละลูกค้าพร้อมการนัดหมายที่จะมี

7. สามารถวางแผนการทำงานของพนักงานขายได้ว่าในแต่ละกิจกรรมหลักจะดำเนินการเมื่อไหร่ แสดงการทำงานจริงของพนักงานนั้น รวมถึงการ Check In ของพนักงานผ่านมือถือ

8. สร้างปฏิทินงานมหกรรมและผลการจัดงานได้

9. สามารถกำหนดเป็นโครงการที่ให้โอกาสทางการขายได้ (Selling Opportunity) เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลในแต่ละโครงการนั้นว่าลูกค้าต้องการสินค้าอะไรจากเรา ใช้ทำอะไร มีการติดต่อระหว่างเรากับลูกค้าไปถึงไหน เป็นกิจกรรมอะไรบ้าง ซึ่งสามารถเชื่อมโยงไปถึงการจัดส่งเอกสาร การทำงานวิจัย (RD) เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เป็นตัวอย่างให้ลูกค้าพิจารณา

10. สามารถให้ระบบเตือน (Alert) ขึ้นมาทันทีที่พนักงานนั้นเข้าสู่ระบบ ทั้งกำหนดนัดหมายต่างๆ ตามกิจกรรมที่มี ติดตามใบเสนอราคาที่ครบกำหนดตามระยะ

11. สามารถออกรายงานต่างๆ ได้ดังนี้

      • รายงานความถี่ในการติดต่อลูกค้า เพื่อนำมาวิเคราะห์ลูกค้าและพนักงานขาย

      • รายงานสรุปแหล่งข้อมูลตามสื่อโฆษณาที่ลูกค้าได้รับและติดต่อเข้ามาซื้อขาย

      • รายงานประเมินที่ลูกค้าคาดว่าจะซื้อสินค้าจากเรา

12. เชื่อมโยงข้อมูลเข้าระบบ SoftPRO ERP ส่วนรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า (Sales Order) เพื่อควบคุมราคา และติดตามการสั่งซื้อของลูกค้าเป็นไปตามข้อตกลงหรือไม่

13. ดึงข้อมูลจากระบบ SoftPRO ERP เพื่อมาวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ของลูกค้า เช่น ลูกค้าที่ไม่มีการเคลื่อนไหวประวัติทางด้านการขายและการติดตามหนี้กับลูกค้าในแต่ละราย รวมไปถึงสถานะ Order ที่สั่งผลิต สินค้าคงเหลือและสินค้าฝาก สถานการณ์รับประกันและการซ่อม


นอกจากนั้นซอฟต์แวร์ยังมี Option อื่นๆ ที่ท่านอาจจะสนใจให้มีการติดตั้งเพิ่มได้แก่

1. รับแจ้งปัญหาจากลูกค้า (Customer Complaint) ทั้งตัวสินค้าที่ซื้อไป การบริการ และการปรับปรุงที่น่าจะมีกับองค์กรของเรา เพื่อบันทึกเข้าสู่ระบบและติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหานั้นในแต่ละเรื่องต่อไป

2. การให้บริการหลังการขายตั้งแต่การประกันสินค้า การตรวจเช็คซ่อมรับบำรุงตามระยะต่างๆ และการแจ้งเตือนลูกค้า เชื่อมโยงกับการรับแจ้งปัญหาจากลูกค้า (Customer Complaint) หรือการแจ้งซ่อม (Repair Job) เพื่อมาดำเนินการแก้ไขให้กับลูกค้า รวมไปถึงการแจ้งค่าใช้จ่าย การติดตามการซ่อม การส่งมอบสินค้าและการเก็บเงินค่าบริการ

3. สามารถบันทึกการเป็นสมาชิก (Member) ของลูกค้าที่ซื้อสินค้า และเชื่อมโยงกับระบบการขายทั้ง Direct Sales, Shop and Department Store และ Counter ต่างๆ ซึ่งสามารถเก็บสะสมยอดซื้อ และการให้ส่วนลด พร้อมทั้งของสมนาคุณ